..ดนตรี.16.Bars....15..16..
ญ.แจ่มจันทร์ส่องมา
.ฟ้าผ่องเพ็ญ.เห็นเด่นตา
.กระต่ายออกมาผวามอง
.กระจ่างอยู่กลางหาว
.สกาวผ่อง
.กระต่ายจึงปองผูกพัน
.กระต่ายตะกายหมายจะโลม
.โสมพร่างพราย
.ตะเกียกตะกายหมายจันทร์
.อยากจูบและลูบไล้
.เพราะใจกระสัน
.แต่ว่าจันทร์ นั้นอยู่ไกล
.มันไม่เจียม ตัวมัน
.เหิมใจกระไรนั่น
.แล้วมันก็หมองไหม้
.เพ็ญโสมโลมใจ
.อ่อนนวลละมุนละไม
.โลมไล้ให้มันอยากชม
.ไม่หลับไม่นอนร้อนกมล
.ล้นอุรา
.อุตส่าห์ออกมาคว้าลม
.อยากมองก็มองสม
.หนอยยังทะยานจะชม
.หน่อยมันก็ตรมใจตาย
ดนตรี.8.Bars..6..7..8..
ช.อย่าเปรียบอย่าเปรย
.เย้ยว่ามัน นั้นไม่เจียม
.กระต่ายน่ะเจียมเหนียมอาย
.ได้ชื่นแต่เพียงแสง
.มิแหนงหน่าย
.ใช่จะตะกาย โอบดวง
.ไม่ใช่ว่ามันนั้นเห่อเหิม
.เคลิ้มโง่งม
.โศกหนักมักตรม ถม ทรวง
.เมื่อจันทร์เจ้าจากฟ้า
.ลับตาจากสรวง
.มืดหมดดวงไร้ผ่องพรรณ
.จันทร์สิ้นเพ็ญเป็นเงา
.แล้วมันก็พลันเศร้า
.หายเมาและเหงานั่น
.มันรู้ตัวมัน
.ว่าจันทร์เฉยเมยกับมัน
.จันทร์นั้นไม่มีห่วงใย..
.เสน่ห์แห่งจันทร์นั้นอยู่ที่
.ศรีผ่องเพ็ญ
.กระต่ายโลดเต้นเข็ญใจ
.จะส่องเวลาไหน
.โถมันก็มองร่ำไป
.ซื่อสัตย์ด้วยใจจริงเอย
ญ.แจ่มจันทร์ส่องมา
.ฟ้าผ่องเพ็ญ.เห็นเด่นตา
.กระต่ายออกมาผวามอง
.กระจ่างอยู่กลางหาว
.สกาวผ่อง
.กระต่ายจึงปองผูกพัน
.กระต่ายตะกายหมายจะโลม
.โสมพร่างพราย
.ตะเกียกตะกายหมายจันทร์
.อยากจูบและลูบไล้
.เพราะใจกระสัน
.แต่ว่าจันทร์ นั้นอยู่ไกล
.มันไม่เจียม ตัวมัน
.เหิมใจกระไรนั่น
.แล้วมันก็หมองไหม้
.เพ็ญโสมโลมใจ
.อ่อนนวลละมุนละไม
.โลมไล้ให้มันอยากชม
.ไม่หลับไม่นอนร้อนกมล
.ล้นอุรา
.อุตส่าห์ออกมาคว้าลม
.อยากมองก็มองสม
.หนอยยังทะยานจะชม
.หน่อยมันก็ตรมใจตาย
ดนตรี.8.Bars..6..7..8..
ช.อย่าเปรียบอย่าเปรย
.เย้ยว่ามัน นั้นไม่เจียม
.กระต่ายน่ะเจียมเหนียมอาย
.ได้ชื่นแต่เพียงแสง
.มิแหนงหน่าย
.ใช่จะตะกาย โอบดวง
.ไม่ใช่ว่ามันนั้นเห่อเหิม
.เคลิ้มโง่งม
.โศกหนักมักตรม ถม ทรวง
.เมื่อจันทร์เจ้าจากฟ้า
.ลับตาจากสรวง
.มืดหมดดวงไร้ผ่องพรรณ
.จันทร์สิ้นเพ็ญเป็นเงา
.แล้วมันก็พลันเศร้า
.หายเมาและเหงานั่น
.มันรู้ตัวมัน
.ว่าจันทร์เฉยเมยกับมัน
.จันทร์นั้นไม่มีห่วงใย..
.เสน่ห์แห่งจันทร์นั้นอยู่ที่
.ศรีผ่องเพ็ญ
.กระต่ายโลดเต้นเข็ญใจ
.จะส่องเวลาไหน
.โถมันก็มองร่ำไป
.ซื่อสัตย์ด้วยใจจริงเอย
จบเนื้อเพลงกระต่ายโง่ - วินัย-มัณฑนา