ลมโชยโบยพริ้วปลิวต้องกายา
เยือกเย็นสะท้านอุรา
เมื่อ ถึงครา หน้าหนาวอีกที
วันนี้ปีก่อน
เคยออดอ้อนพร่ำวอนวจี
งานดอกฝ้ายบานทุกปี
เคยมีฉันคู่กันกับเธอ.
.พอมาปีนี้ ไม่มีกานดา
ฉันเดินคนเดียวเหว่หว้า
เฝ้ามองหา ไม่พบไม่เจอ
ยิ่งเห็นสาวหนุ่ม
เดินเป็นกลุ่มยิ่งกลุ้มจริงเออ
ข้างฉันไม่มีตัวเธอ
ต้องยืนเซ่อ ซึมเหม่อคนเดียว
.ดอก ฝ้ายบานที่ เมืองเลย
ปีก่อนยังเคย
มีสาวเลยเป็นคู่ควงเคียว
ปีนี้ในงาน ทุกคนเบิกบาน
ใจฉันห่อเหี่ยว
เห็นสีแสง ไฟแดงไฟเขียว
มองยิ่งเปลี่ยวใจคนผิดหวัง
ลมแรงเร่งเร้าให้หนาวหนักหนา
ฉันเดินเลี่ยงฝูงชนมา
นั่งมองฟ้าว้าเหว่ลำพัง
ตรงนี้ครั้งก่อน
มีงามงอนแฟนฉันเคยนั่ง
เหลือไว้แต่ภาพความหลัง
เพราะร้อยชั่งแต่งงานไปแล้ว
....ดนตรี.....
ลมแรงเร่งเร้าให้หนาวหนักหนา
ฉันเดินเลี่ยงฝูงชนมา
นั่งมองฟ้าว้าเหว่ลำพัง
ตรงนี้ครั้งก่อน
มีงามงอนแฟนฉันเคยนั่ง
เหลือไว้แต่ภาพความหลัง
เพราะร้อยชั่งแต่งงานไปแล้ว
เยือกเย็นสะท้านอุรา
เมื่อ ถึงครา หน้าหนาวอีกที
วันนี้ปีก่อน
เคยออดอ้อนพร่ำวอนวจี
งานดอกฝ้ายบานทุกปี
เคยมีฉันคู่กันกับเธอ.
.พอมาปีนี้ ไม่มีกานดา
ฉันเดินคนเดียวเหว่หว้า
เฝ้ามองหา ไม่พบไม่เจอ
ยิ่งเห็นสาวหนุ่ม
เดินเป็นกลุ่มยิ่งกลุ้มจริงเออ
ข้างฉันไม่มีตัวเธอ
ต้องยืนเซ่อ ซึมเหม่อคนเดียว
.ดอก ฝ้ายบานที่ เมืองเลย
ปีก่อนยังเคย
มีสาวเลยเป็นคู่ควงเคียว
ปีนี้ในงาน ทุกคนเบิกบาน
ใจฉันห่อเหี่ยว
เห็นสีแสง ไฟแดงไฟเขียว
มองยิ่งเปลี่ยวใจคนผิดหวัง
ลมแรงเร่งเร้าให้หนาวหนักหนา
ฉันเดินเลี่ยงฝูงชนมา
นั่งมองฟ้าว้าเหว่ลำพัง
ตรงนี้ครั้งก่อน
มีงามงอนแฟนฉันเคยนั่ง
เหลือไว้แต่ภาพความหลัง
เพราะร้อยชั่งแต่งงานไปแล้ว
....ดนตรี.....
ลมแรงเร่งเร้าให้หนาวหนักหนา
ฉันเดินเลี่ยงฝูงชนมา
นั่งมองฟ้าว้าเหว่ลำพัง
ตรงนี้ครั้งก่อน
มีงามงอนแฟนฉันเคยนั่ง
เหลือไว้แต่ภาพความหลัง
เพราะร้อยชั่งแต่งงานไปแล้ว
จบเนื้อเพลงดอกฝ้ายบานที่เมืองเลย - มนต์สิทธิ์ คำสร้อย