ป่าเหนือเมื่อหน้า ดอกไม้บาน
ลมฝนบนฟ้าผ่าน ฟ้ามองดั่งม่านน้ำตา
น้ำฝน หล่นจากฟากฟ้า
ขังแก่งเหมือนแอ่งน้ำตา
ไหลตกจากผา แว่วฟัง
ป่าเหนือเมื่อไป ได้พบมา
เมืองเหนือเมื่อน้ำบ่า
เลาะธารซ่านซ่าเคล้าดัง
น้ำไหล ไปหลากมากครั้ง
หมุนวนสายชลเหมือนดั่ง
ไหลหลั่งเป็นวัง น้ำวน
ริมฝั่งวังน้ำค่ำลงคงมี แสงจันทร์
คืนหนึ่งคืนนั้น พบกันน้องเอยสองคน
เมืองเหนืออนงค์นั้นคงมีมนต์
เป่าหัวใจเสียจน กลให้ใฝ่ฝัน
แอ่วสาวเจ้าวอนอ้อนน้ำคำ
จนสูรย์ลอยคล้อยต่ำ
สายัณห์เย็นย่ำทุกวัน
แล้วไฉน จะให้ลืมนั้น
แม้นใครได้ไปเที่ยวพลัน
หลงมั่นในเมือง เหนือเอย
ดนตรี.solo.....
..แอ่วสาวเจ้าวอนอ้อนน้ำคำ
จนสูรย์ลอยคล้อยต่ำ
สายัณห์เย็นย่ำทุกวัน
แล้วไฉน จะให้ลืมนั้น
แม้ใครได้ไปเที่ยวพลัน
หลงมั่นในเมือง เหนือเอย
ลมฝนบนฟ้าผ่าน ฟ้ามองดั่งม่านน้ำตา
น้ำฝน หล่นจากฟากฟ้า
ขังแก่งเหมือนแอ่งน้ำตา
ไหลตกจากผา แว่วฟัง
ป่าเหนือเมื่อไป ได้พบมา
เมืองเหนือเมื่อน้ำบ่า
เลาะธารซ่านซ่าเคล้าดัง
น้ำไหล ไปหลากมากครั้ง
หมุนวนสายชลเหมือนดั่ง
ไหลหลั่งเป็นวัง น้ำวน
ริมฝั่งวังน้ำค่ำลงคงมี แสงจันทร์
คืนหนึ่งคืนนั้น พบกันน้องเอยสองคน
เมืองเหนืออนงค์นั้นคงมีมนต์
เป่าหัวใจเสียจน กลให้ใฝ่ฝัน
แอ่วสาวเจ้าวอนอ้อนน้ำคำ
จนสูรย์ลอยคล้อยต่ำ
สายัณห์เย็นย่ำทุกวัน
แล้วไฉน จะให้ลืมนั้น
แม้นใครได้ไปเที่ยวพลัน
หลงมั่นในเมือง เหนือเอย
ดนตรี.solo.....
..แอ่วสาวเจ้าวอนอ้อนน้ำคำ
จนสูรย์ลอยคล้อยต่ำ
สายัณห์เย็นย่ำทุกวัน
แล้วไฉน จะให้ลืมนั้น
แม้ใครได้ไปเที่ยวพลัน
หลงมั่นในเมือง เหนือเอย
จบเนื้อเพลงมนต์เมืองเหนือ - ลัดดาวัลย์ ประวัติวงศ์