เขาแต่งแฟนซี
มากมีต่างสีต่างสรร.
ดูล้วนแพรพรรณ
แข่งขันกันงามหนักหนา..
ฉันแต่งอย่างนี้
ไม่ใช่แฟนซีนะท่านเจ้าขา
เพราะยากแค้นอนาถา
แม้แต่เสื้อผ้าไม่มีชิ้นดี..
แม้เปรียบแฟนซี
ก็เป็นแฟนซีชีวิต.
มองแล้วต้องคิด
ชีวิตคนเราเหล่านี้.
ล้วนแตกต่างกัน
เหมือนผ้าแพรพรรณ
หลายหลากมากสี.
รวมทั้งคน.จนนี่
สุดแต่วิถีที่ตนเกิดตาย..
แต่แล้วบางคน
เขาไม่มองคนในแง่ชีวิต
เขากลับมองอาภรณ์น้อยนิด
ที่เราใช้ปิดปกป้องร่างกาย
ก็ให้เสื้อผ้า
เราซื้อหามาเพียงปิดความอาย
ค่าของคน เรามีมากมาย
กลับลดกาย ไปเทียบกับมัน.
เห็นแต่งกายดี ก็ผูกไมตรีเข้าไว้
ใจนะเป็นอย่างไร
ทราบไหมที่ไปผูกพัน..
แม้แต่งมอซอ ทำข้อรังเกียจ
หยามเหยียดเดียดฉันท์
ใส่หน้ากากหากัน
แต่งตัวเฉิดฉันท์ก็มีเกียรติดี.
เราหันไปยกย่อง
อาภรณ์ประดับร่างกาย
แล้วผู้คนที่จนเหลือหลาย
ก็คงแหนงหน่ายสิ้นไร้ราศี.
จงเป็นช่องให้
วายร้ายอาศัยมาร่วมคลุกคลี
เที่ยวแทรกแซงสังคมผู้ดี
ให้หมองมีราศียอกย้อน
แม้ถอดอาภรณ์
ร่างกายล่อนจ้อนเท่านั้น
คงเหมือนไปทั่วกัน
ท่านฉันไม่มีหลอกหลอน.
แม้นสิ้นลมปราณ
ของที่ต้องการก็เพียงกองฟอน
ควรยับยั้ง.สังวรณ์
อย่ามัวหลอกหลอนล่อลวงอยู่เลย
มากมีต่างสีต่างสรร.
ดูล้วนแพรพรรณ
แข่งขันกันงามหนักหนา..
ฉันแต่งอย่างนี้
ไม่ใช่แฟนซีนะท่านเจ้าขา
เพราะยากแค้นอนาถา
แม้แต่เสื้อผ้าไม่มีชิ้นดี..
แม้เปรียบแฟนซี
ก็เป็นแฟนซีชีวิต.
มองแล้วต้องคิด
ชีวิตคนเราเหล่านี้.
ล้วนแตกต่างกัน
เหมือนผ้าแพรพรรณ
หลายหลากมากสี.
รวมทั้งคน.จนนี่
สุดแต่วิถีที่ตนเกิดตาย..
แต่แล้วบางคน
เขาไม่มองคนในแง่ชีวิต
เขากลับมองอาภรณ์น้อยนิด
ที่เราใช้ปิดปกป้องร่างกาย
ก็ให้เสื้อผ้า
เราซื้อหามาเพียงปิดความอาย
ค่าของคน เรามีมากมาย
กลับลดกาย ไปเทียบกับมัน.
เห็นแต่งกายดี ก็ผูกไมตรีเข้าไว้
ใจนะเป็นอย่างไร
ทราบไหมที่ไปผูกพัน..
แม้แต่งมอซอ ทำข้อรังเกียจ
หยามเหยียดเดียดฉันท์
ใส่หน้ากากหากัน
แต่งตัวเฉิดฉันท์ก็มีเกียรติดี.
เราหันไปยกย่อง
อาภรณ์ประดับร่างกาย
แล้วผู้คนที่จนเหลือหลาย
ก็คงแหนงหน่ายสิ้นไร้ราศี.
จงเป็นช่องให้
วายร้ายอาศัยมาร่วมคลุกคลี
เที่ยวแทรกแซงสังคมผู้ดี
ให้หมองมีราศียอกย้อน
แม้ถอดอาภรณ์
ร่างกายล่อนจ้อนเท่านั้น
คงเหมือนไปทั่วกัน
ท่านฉันไม่มีหลอกหลอน.
แม้นสิ้นลมปราณ
ของที่ต้องการก็เพียงกองฟอน
ควรยับยั้ง.สังวรณ์
อย่ามัวหลอกหลอนล่อลวงอยู่เลย
จบเนื้อเพลงแฟนซีชีวิต - รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส